ปูพรม 10 จุด ในพื้นที่ จ.สงขลา ตามยุทธการ ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองให้น่าอยู่ ทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ

          เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจปูพรมตรวจค้น 10 จุด ในพื้นที่ จ.สงขลา ตามยุทธการ ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองให้น่าอยู่ ทวงคืนความเป็นธรรมให้ลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าถูกนายทุนเงินกู้รายใหญ่ปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

          โดยปฏิบัติการครั้งนี้เจ้าหน้าที่ปูพรมตรวจค้น7 จุด ในพื้นที่ จ.สงขลา ตรวจยึดเพื่อหาพยานหลักฐานความเชื่อมโยง หลังได้เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับนายทุนเงินกู้นอกระบบกระทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน นอกจากนี้ได้ตรวจยึดอายัดทรัพย์ 3จุด เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พร้อมยึดอายัดทรัพย์สินเป็นบ้าน อาคารพานิชย์ และที่ดินมูลค่า 524.5 ล้านบาท

          พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการปราบปรามในพื้นที่อีสานเหนือมาแล้ว ในอ.กระนวน อ.ชุมแพ จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี กาฬสินธุ์ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดเลย จังหวัดร้อยเอ็ด จ.หนองบัวลำภู จังหวัดหนองคาย จังหวัดเลย โดยครั้งนี้ได้ดำเนินการขยายผลมาในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะ จ.สงขลา หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าถูกนายทุนเงินกู้รายใหญ่ปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

          ผบช.สตม.กล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสาร หลักฐานที่ตรวจยึดได้ทั้งหนังสือสัญญากู้ สัญญาจำนอง พบว่ากลุ่มนายทุนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมในลักษณะเดิมคือให้ลูกหนี้ลงชื่อในกระดาษเปล่า รวมทั้งมีการนำสำเนาทะเบียนรถมาในลักษณะจำนำรถ ซึ่งจะเห็นได้ว่าจำนวนที่ดินในพื้นที่ภาคใต้จะมีราคาที่ดินสูงกว่าในแถบภาคอีสาน ซึ่งงานปราบปรามเงินกู้ดอกเบี้ยโหดไม่ได้เลือกเฉพาะภาค แต่ทำอย่างเท่าเทียม