น่าน - พ่อเมืองน่านนำชาวเมืองน่านร่วมกิจกรรมยุพราชสัญจรจัดวิ่งฝ่าลมหนาว แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8

          จังหวัดน่านตระหนักถึงปัญหาโรคหลอดเลือดสมองเป็นอีกโรคหนึ่งที่ทำลายคุณภาพชีวิตของประชากร จึงได้จัดกิจกรรมวิ่ง "แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีที่ทรงเป็นแบบอย่างในการออกกำลังกายแบบง่าย ๆ เพื่อตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง การเดิน วิ่ง ปั่น จักรยาน ช่วงวันหยุดยาวจังหวัดน่าน ที่สนามกีฬาพญาผานอง อ.ปัว จ.น่าน

          เมื่อเช้ามืดวันเสาร์ที่ 22 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ประธานคณะกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เป็รประธานเปิดกิจกรรมวิ่ง "แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีที่ทรงเป็นแบบอย่างในการออกกำลังกาย เพื่อประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โดยวิธีการออกกำลังกายแบบง่ายๆ คือ การเดิน วิ่ง ปั่น จักรยาน เป็นการออกกำลังกายภายใต้การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกัน ดูแล และรักษาอย่างถูกต้องแก่ประชาชนทั่วไป สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ขับเคลื่อนภายใต้โครงการฯ ผ่านเขตสุขภาพ 13 แห่งทั่วประเทศ ในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมให้ความรู้โรคหลอดเลือดสมอง และกิจกรรมออกกำลังกายเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกัน อัมพาต ใน 77 จังหวัดทั้งประเทศ เพื่อเป็นการให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองโดยมีนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วย นายสมเกียรติ อาจสังข์ นายอำเภอปัว นพ.วรินทร์เทพ เชื้อสำราญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน นพ.กิติศักดิ์ เกษตรสินสมบัติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว นพ.วสันต์ แก้ววี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน ภาคส่วนราชการ ข้าราชการในสังกัดโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั้ง 21 แห่ง และกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช นักวิ่งชาวเมืองน่าน เมืองวรนคร อ.ปัว และนักวิ่งทั่วประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้หนาแน่น 

          จากรายงานกรณีศึกษาโรคและการบาดเจ็บของประชากรไทยพบว่า ในประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ประมาณ 1,880 คน ต่อประชากรจำนวนหนึ่งแสนคน หรือร้อยละ 2 ซึ่งถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ส่วนใหญ่เกิดในเพศหญิง รองจากอุบัติเหตุและโรคมะเร็ง นอกจากนั้น โรคนี้ยังมีอัตราความพิการสูง จากการศึกษาในประเทศไทยพบว่าในผู้ป่วย 100 คน ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจะเสียชีวิตร้อยละ 5 และพิการร้อยละ 7 ซึ่งนอกจากความพิการทางกายแล้ว ยังมีผลทำให้ความจำเสื่อมในภายหลัง ถ้าประชาชนขาดความรู้ด้านการป้องกันหรือรักษาอย่างถูกวิธี โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ ร้อยละ 90 ถ้าสามารถปรับพฤติกรรมเลี่ยงความเสี่ยงได้